เกี่ยวกับเรา

โครงการบ้านเดี่ยวของเรา (ในเครือศุภาลัย)

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน)

จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 26 มิถุนายน 2532 โดยเริ่มประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย
และการพาณิชย์ โดยมีทุนจดทะเบียนเริ่มต้น 100 ล้านบาท ในระยะแรกได้ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการ
สร้างบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮ้าส์ ในลักษณะโครงการบ้านจัดสรร
ต่อมาจึงขยายธุรกิจสู่โครงการอาคารชุดอาคารสำนักงาน โรงแรมและรีสอร์ท

ต่อมาในปี 2535 บริษัทฯ ได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชน โดยมีทุนจดทะเบียนเพิ่มเป็น 1,000 ล้านบาท
และได้นำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในวันที่ 17 พฤศจิกายน 2536
โดยมุ่งเน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบ และแนวสูงหลายโครงการ

haadyainakarin

จนกระทั่งในปี 2540

บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากวิกฤติเศรษฐกิจในประเทศไทย ในปี 2542 บริษัทฯ ได้เข้าร่วมกระบวนการปรับโครงสร้างหนี้กับสำนักงานคณะกรรมการเพื่อส่งเสริมการปรับปรุงโครงสร้างหนี้ (“คปน.”) ธนาคารแห่งประเทศไทย รวมมูลหนี้จำนวนทั้งสิ้น 8,113 ล้านบาท การปรับโครงสร้างหนี้เสร็จสิ้นในปี 2545 โดยบริษัทฯ ยังคงดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ทั้งบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม บ้านแฝด อาคารชุด อาคารสำนักงาน รีสอร์ท และโรงแรมจนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ มีทุนชำระแล้วทั้งสิ้น 1,716.55 ล้านบาท

haadyainakarin

ภาพรวมในการประกอบธุรกิจของบริษัทฯ และบริษัทย่อย

บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย (“กลุ่มบริษัท”) ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อเป็นที่อยู่อาศัยและเพื่อการพาณิชย์โครงการที่อยู่อาศัยของศุภาลัย อยู่ภายใต้แนวความคิด การสร้างสรรค์ ที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ เพื่อสังคมคุณภาพของ “ชาวศุภาลัย” ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์แบบบ้านอย่าง ต่อเนื่อง ใช้วัสดุก่อสร้างที่มีคุณภาพมาตรฐาน พัฒนาการบริการที่ดี ทั้งก่อนและหลังส่งมอบสินค้า และให้ความดูแลพัฒนาสังคมให้มีความปลอดภัยและอบอุ่น เพื่อสร้างความพึงพอใจของลูกค้าสูงสุด

บริษัทฯ และบริษัทย่อยจะเป็นผู้ดำเนินการและเป็นเจ้าของโครงการบ้านอยู่อาศัยประเภท บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านรถใหม่ ทาวน์โฮม และอาคารชุด ในหลากหลายทำเลทั่วเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑลรวมถึงต่างจังหวัด เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดและกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกัน จะเน้นตลาดกลุ่มลูกค้าผู้มีรายได้ปานกลางถึงผู้มีรายได้ระดับสูง โดยมุ่งเน้นที่จะพัฒนาโครงการปัจจุบันและก่อสร้างบ้านที่อยู่ระหว่างดำเนินการให้แล้วเสร็จ และส่งมอบให้แก่ลูกค้าตามกำหนด เพื่อสร้างการจดจำในตราสินค้าของกลุ่มบริษัท ชื่อ “ศุภาลัย” จะใช้เป็นชื่อนำหน้าโครงการต่าง ๆ ทุกโครงการ ตามด้วยชื่อลักษณะหรือรูปแบบโครงการที่แตกต่างกันออกไปตามกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทอาคารสำนักงานให้เช่า โดยเน้นที่ทำเลที่เป็นแหล่งธุรกิจการค้า อีกทั้งบริษัทย่อย ยังดำเนินธุรกิจบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ รวมทั้งบริหารจัดการโรงแรม และสถานพักตากอากาศอีกด้วย ปัจจุบันสถานภาพของบริษัทฯ และบริษัทย่อย เติบโตขึ้นจนอยู่ในระดับแนวหน้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์

  • 1. ถือหุ้นโดยคุณประทีป ตั้งมติธรรม และบุคคลตามมาตรา 258 แห่งพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และ ตลาดหลักทรัพย์ (พ.ศ. 2535)
  • 2. นายประทีป ตั้งมติธรรม นายชวน ตั้งมติธรรม ซึ่งมีความสัมพันธ์เป็นพี่ชายของ นายประทีป ตั้งมติธรรม และ นางอัญชัญ ตั้งมติธรรม ซึ่งเป็นภรรยา นายชวน ตั้งมติธรรม ถือหุ้นรวมกันร้อยละ 5.06 ของทุนชำระแล้ว ส่วนผู้ถือหุ้นที่เหลือเป็นบุคคลธรรมดาหลายรายที่มิได้มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่ม นายประทีป ตั้งมติธรรม
  • 3. ส่วนผู้ถือหุ้นส่วนที่เหลือเป็นของกลุ่มนายชวน ตั้งมติธรรม ซึ่งมีความสัมพันธ์เป็นพี่ชายของ นายประทีป ตั้งมติธรรม สัดส่วนรวม 4.65% และนิติบุคคลและบุคคลธรรมดาที่มิได้มีความเกี่ยวข้องกับ กลุ่มนายประทีป ตั้งมติธรรม

บริษัทฯ มีบริษัทย่อยและบริษัทที่เกี่ยวข้องทั้งสิ้น 10 บริษัท ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ดังนี้

  • (1) บริษัท ศุภาลัย พรอพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (“SPM”)

    บริษัทฯ ถือหุ้นอยู่ร้อยละ 99.91 ของทุนจดทะเบียน 25 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจบริหารดูแลและจัดการโรงแรม ภัตตาคาร สถานพักตากอากาศและบริหารโครงการอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบัน ดำเนินการบริหารโรงแรม ศุภาลัยป่าสักรีสอร์ทแอนด์ สปา ในระหว่างปี 2560 บมจ.ศุภาลัย ได้ซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมที่ถืออยู่ใน SPM ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่ม เป็นร้อยละ 99.99
  • (2) บริษัท หาดใหญ่นครินทร์ จำกัด (“HN”)

    HN จัดตั้งขึ้นในปี 2531 จากการรวมกลุ่มของนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดสงขลา โดยมีกลุ่มนายประทีป ตั้งมติธรรม กลุ่มนายชวน ตั้งมติธรรมและ บมจ.มั่นคงเคหะการ ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 5.40 ร้อยละ 4.65 และร้อยละ 6.03 ตามลำดับ ต่อมาในปี 2539 บริษัทฯ เห็นศักยภาพของการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในจังหวัดสงขลา อีกทั้งยังเป็นการขยายการลงทุนไปสู่ภูมิภาค บริษัทฯ จึงได้เข้าร่วมลงทุนใน HN ในสัดส่วนร้อยละ 49.89 ของทุนจดทะเบียนจำนวน 191.50 ล้านบาท ปัจจุบัน พัฒนาโครงการอาเซี่ยนเทรดเซ็นเตอร์ ศูนย์ธุรกิจครบวงจร โครงการคอนโดมิเนียมระดับกลาง 2 โครงการ และโครงการบ้านจัดสรรอีก 8 โครงการ ในระหว่างปี 2558 บมจ.ศุภาลัย ได้ซื้อหุ้นเพิ่มจาก บมจ.มั่นคงเคหะการ ที่ถืออยู่ใน HN ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็นร้อยละ 55.92 ในระหว่างปี 2560 บมจ.ศุภาลัย ได้ซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นเดิมที่ถืออยู่ใน HN ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มเป็นร้อยละ 56.52
  • (3) บริษัท ศุภาลัยอิสาน จำกัด (“SPN”)

    บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 98.77 ของทุนจดทะเบียนจำนวน 335.45 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ปัจจุบัน ดำเนินโครงการบ้านจัดสรร 6 โครงการในจังหวัดขอนแก่น
  • (4) บริษัทภูเก็ตเอสเตท จำกัด (“PE”)

    PE จัดตั้งขึ้นในปี 2532 เพื่อซื้อที่ดินที่จังหวัดภูเก็ต ต่อมาในปี 2544 SPM ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้เข้าร่วมทุนใน PE เพื่อสร้างโรงแรมและรีสอร์ทในจังหวัดภูเก็ต เนื่องจากเห็นถึงศักยภาพของโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต แต่เนื่องจากการพัฒนาโรงแรมที่จังหวัดภูเก็ตดังกล่าวต้องใช้เงินลงทุนค่อนข้างสูง และ SPM มีเงินทุนไม่เพียงพอ จึงได้ขายหุ้นทั้งหมดให้บริษัทฯ ต่อมาเมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2553 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2553 ของบริษัท ภูเก็ต เอสเตท จำกัด มีมติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเดิม 153.6 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียนใหม่ 307.3 ล้านบาท บริษัทฯ ลงทุนเพิ่มเป็นจำนวนเงิน 143.7 ล้านบาท ทำให้บริษัทฯ มีสัดส่วนการลงทุนในบริษัทย่อยดังกล่าวเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 81.51 ปัจจุบัน PE ประกอบธุรกิจพัฒนาบ้านพักตากอากาศเพื่อเช่าระยะยาวและบริหารโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต
  • (5) SupalaiPhilippinesIncorporate(“SPI”)

    ในระหว่างปี 2556 บริษัทฯ ได้ลงทุนใน Supalai Philippines Incorporate ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในประเทศฟิลิปปินส์ จำนวน 599,999,972 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 100 ของ Supalai Philippines Incorporate โดยประกอบธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่าในประเทศฟิลิปปินส์
  • (6) Supalai Singapore Holdings Pte. Ltd. (“SSH”)

    ในระหว่างปี 2557 - 2560 บริษัทฯ ได้ลงทุนใน Supalai Singapore Holdings Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในประเทศสิงคโปร์ จำนวน 74,793,102 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 100 ของ Supalai Singapore Holdings Pte. Ltd. ประกอบธุรกิจเพื่อการลงทุนในบริษัทต่างประเทศ
  • (7) Supalai Australia Holdings Pty. Ltd. (“SAH”)

    ในระหว่างปี 2557 – 2560 Supalai Singapore Holdings Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ได้ลงทุนใน Supalai Australia Holdings Pty. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในประเทศออสเตรเลีย จำนวน 38,590,100หุ้น คิดเป็นร้อยละ 100 ของ Supalai Australia Holdings Pty. Ltd. ประกอบธุรกิจเพื่อการลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ในประเทศออสเตรเลีย
  • (8) Supalai Rippleside Development Pty. Ltd. (“SRD”)

    ในระหว่างปี 2557 – 2560 Supalai Australia Holdings Pty. Ltd. ได้ลงทุนใน Supalai Rippleside Development Pty. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในประเทศออสเตรเลีย จำนวน 8,150,100 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 100 ของ Supalai Rippleside Development Pty. Ltd. ประกอบธุรกิจเพื่อการลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ในประเทศออสเตรเลีย
  • (9) Supalai Officer Development Pty. Ltd. (“SOD”)

    ในระหว่างปี 2557-2560 Supalai Australia Holdings Pty. Ltd. ได้ลงทุนใน Supalai Officer Development Pty. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในประเทศออสเตรเลีย จำนวน 4,500,100 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 100 ของ Supalai Officer Development Pty. Ltd. ประกอบธุรกิจเพื่อการลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ในประเทศออสเตรเลีย
  • (10) Supalai Greenvale Development Pty. Ltd. (“SGV”)

    ในระหว่างปี 2558 และปี 2560 Supalai Australia Holdings Pty. Ltd. ได้ลงทุนใน Supalai Greenvale Development Pty. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทที่จัดตั้งขึ้นในประเทศออสเตรเลีย จำนวน 9,087,600 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 100 ของ Supalai Greenvale Development Pty. Ltd. ประกอบธุรกิจเพื่อการลงทุนในบริษัทต่าง ๆ ในประเทศออสเตรเลีย
  • มีประสบการณ์ด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ มากว่า 30 ปี จึงสามารถพัฒนาสินค้าที่มีคุณภาพดีตรงตามความต้องการของผู้บริโภคในต้นทุนที่แข่งขันกับตลาดได้
  • สถานที่ตั้งโครงการตั้งอยู่ในบริเวณที่มีศักยภาพ ทั่วทุกทิศทางในเขตจังหวัดกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งต่างจังหวัด โดยมีผลิตภัณฑ์ ที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็น อาคารพาณิชย์ ทาวน์โฮม บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม ทำให้เพิ่มโอกาสในการขายและกระจายความเสี่ยงในการลงทุน
  • การพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป จนทำให้บริษัทฯ เป็นผู้นำบ้านและอาคารประหยัดพลังงานที่ลูกค้าให้ความเชื่อถือ
  • การวางระบบงานที่เป็นมาตรฐานโดยการออกแบบ การก่อสร้าง การใช้วัสดุก่อสร้างที่ได้มาตรฐาน และเน้นการ ให้บริการหลังการขายภายหลังการพัฒนาโครงการแล้วเสร็จ โดยดูแลและพัฒนาสังคมให้มีความปลอดภัยและอบอุ่น เพื่อสร้างความพึงพอใจของลูกค้าสูงสุด จนได้รับการรับรองมาตรฐานสากลระบบ ISO 9001:2008

    ซึ่งมีขอบเขตการควบคุมระบบคุณภาพครบวงจรตลอดการผลิตจนถึงการส่งมอบ
    เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ลูกค้าทำให้สามารถส่งมอบงานแก่ลูกค้าเร็วขึ้น

  • การบริหารความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถขาย พัฒนา ก่อสร้าง และส่งมอบโอนกรรมสิทธิ์ได้เร็ว รวมทั้งการสำรวจศึกษาวิจัยเพื่อดูความต้องการของลูกค้า และประเมินศักยภาพของที่ดินที่จะนำมาพัฒนา ก่อนที่จะพิจารณาลงทุนเพิ่มเติมในโครงการที่มีอยู่หรือลงทุนในโครงการใหม่

    โดยกำหนดขนาดโครงการแต่ละโครงการไม่ให้ใหญ่เกินไป เพื่อลดความเสี่ยงในการเปลี่ยนแปลงความนิยมของตลาด อีกทั้งยังจำกัดงบประมาณในการลงทุนต่อโครงการ
    และเพื่อใช้ เวลาในการขายโครงการให้สั้นลง

บริษัทฯ ให้ความสำคัญในการสร้างประโยชน์ต่อผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายในระยะยาว เพื่อให้บริษัทฯ เติบโตอย่างยั่งยืน ดังนี้

  • 1. การสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ผู้ถือหุ้น และให้ผลตอบแทนที่เหมาะสมอย่างต่อเนื่อง
  • 2. การสร้างสภาพแวดล้อมให้พนักงานทำงานอย่างมีความสุข (Happy Workplace) เน้นพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างต่อเนื่อง ให้มีศักยภาพในการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น และสามารถพัฒนาระดับการให้บริการให้อยู่ในชั้นแนวหน้าของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เพื่อส่งผลต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯให้บรรลุเป้าหมาย ประสบความสำเร็จ
  • 3. การสร้างพันธมิตรทางธุรกิจกับคู่ค้าและผู้รับเหมา โดยการยึดมั่นในความซื่อสัตย์ และจริยธรรมในการดำเนินธุรกิจ
  • 4. การสร้างความเป็นเลิศด้านสินค้าและบริการ เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกระดับ ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ โดยเน้นพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพอย่างต่อเนื่อง ในทำเลที่เหมาะสมและมีศักยภาพเพื่อตอบสนองความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยของกลุ่มเป้าหมายของบริษัทฯให้ความสำคัญในเรื่องการวางผัง การออกแบบ การก่อสร้าง การขายและบริการที่ดีเลิศโดยคำนึงถึงการใช้ประโยชน์และความต้องการของลูกค้าเป็นสำคัญ
  • 5. การป้องกันผลกระทบที่เกิดขึ้น หรือ อาจเกิดขึ้นกับชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม ภายใต้แนวคิด "ศุภาลัย...ใส่ใจ สร้างสรรค์สังคมไทย" โดยการตอบแทนสิ่งดี ๆ กลับคืนสู่ชุมชนและสังคมโดยรวมเช่น การศึกษา ค้นคว้า วิจัย และออกแบบบ้านอนุรักษ์พลังงาน, พัฒนาสภาวะแวดล้อมของสังคมและพื้นที่ ที่บริษัทฯ ไปพัฒนาโครงการต่าง ๆ, ให้การสนับสนุนกิจกรรมของสถาบัน หรือมูลนิธิการกุศลต่าง ๆ เพื่อช่วยเหลือสร้างสรรค์สังคม
บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และบริษัทย่อย ดำเนินธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง
มีลักษณะผลิตภัณฑ์ตามประเภทของธุรกิจแต่ละประเภท ดังนี้

ก. ธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัย

1) ธุรกิจจัดสรรบ้านและที่ดิน

บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจจัดสรรบ้านและที่ดินเพื่อจำหน่าย เป็นการพัฒนาโครงการบ้านพักอาศัยในลักษณะแนวราบในรูปแบบของบ้านเดี่ยว (Single detached House) บ้านแฝด (Duplex House) และทาวน์โฮม(Townhome) พร้อมการพัฒนาสาธารณูปโภคต่าง ๆ ในโครงการ บริษัทฯ มีนโยบายขายบ้านพร้อมที่ดินจัดสรร ทั้งบ้านสร้างเสร็จก่อนขาย และบ้านสั่งสร้าง ทั้งนี้ส่วนใหญ่จะขายบ้านที่กำลังก่อสร้างใกล้เสร็จ เพื่อให้ลูกค้าได้เห็นบ้านในระหว่างสร้างและมีความมั่นใจว่าบ้านจะสร้างเสร็จตามกำหนด

โครงการของกลุ่มบริษัทตั้งอยู่บนที่ดินทำเลบริเวณถนนรอบนอกของกรุงเทพมหานคร หรือใกล้กับระบบขนส่งมวลชนที่มีอยู่ในปัจจุบัน และจะมีขึ้นในอนาคต รวมทั้งในต่างจังหวัดที่เป็นศูนย์กลางธุรกิจและแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งเป็นทำเลใหม่ที่มีศักภาพและมีความต้องการบ้านพักอาศัยสูง ทุกโครงการของกลุ่มบริษัทอยู่ภายใต้แนวความคิด “ศุภาลัย...ใส่ใจ สร้างสรรค์ สังคมไทย” มีแบบบ้านให้เลือกหลากหลาย ที่ได้รับการออกแบบ สวยงาม ไม่ล้าสมัยในรูปแบบ Modern Classic Style อยู่สบาย ประหยัดพลังงาน และเน้นประโยชน์ใช้สอยอย่างคุ้มค่า ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทจะใช้ชื่อโครงการที่ต่างกันตามลักษณะรูปแบบโครงการ ผลิตภัณฑ์ และกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่แตกต่างกัน

ข. ธุรกิจอาคารสำนักงานให้เช่า

บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจอาคารสำนักงาน เพื่อให้บริการพื้นที่สำนักงานให้เช่าแก่ลูกค้า โดยทำเลที่ตั้งของโครงการจะอยู่ในกรุงเทพมหานครบนทำเลศักยภาพที่สามารถเชื่อมต่อศูนย์กลางธุรกิจ (CBD: Central Business District) ได้ง่าย และมีสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสาธารณูปโภคและการสื่อสารโทรคมนาคมอย่างครบครัน ปัจจุบัน บริษัทฯ เปิดอาคารสำนักงานให้เช่า “ศุภาลัย แกรนด์ ทาวเวอร์” ตั้งอยู่บนถนนพระราม 3 เป็นอาคารสูง 33 ชั้น ประกอบด้วยพื้นที่ให้เช่าประมาณ 42,000 ตารางเมตร พร้อมอาคารจอดรถ 1 อาคาร โดยออกแบบเป็นอาคารสำนักงานที่เน้นความทันสมัย ด้วยรูปแบบสถาปัตยกรรมที่มีรูปทรงอาคารเป็นวงรี มีการวางรูปแบบพื้นที่ใช้สอยภายในอาคารให้มีความเหมาะสมและเป็นอาคารประหยัดพลังงาน ขนาดพื้นที่ให้เช่ามีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 118 - 1,000ตารางเมตรขึ้นไป

Supalai Philippines Inc., ซึ่งเป็นบริษัทย่อยดำเนินธุรกิจอาคารสำนักงาน เพื่อให้เช่าแก่ลูกค้า โดยตึกเป็นอาคารสำนักงานเกรด A สูง 45 ชั้นรวมที่จอดรถ มีพื้นที่ทั้งหมด 67,590 ตารางเมตร Supalai Philippines เป็นเจ้าของ 16 ชั้น พื้นที่รวมประมาณ 20,000 ตารางเมตร อาคารสำนักงานสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2541 ออกแบบโดยสำนักงานสถาปนิกระดับโลก คือบริษัท Skidmore, Owings & Merrill ในปี 2542-2543 เคยถูกบันทึกว่าเป็นตึกที่สูงที่สุดในฟิลิปปินส์ แม้ว่าตัวอาคารจะสร้างมานานแล้วแต่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี โดยฝ่ายบริหารจัดการอาคารของ Colliers และ Petron Mega Plaza Condominium Association โดยได้รับรางวัลด้านการดูแลรักษาอาคารจากการเข้าประกวดกับหน่วยงานหลายหน่วยงาน

โดยในปี 2560 Supalai Philippines Inc., ได้ทำสัญญาขายอาคารสำนักงานให้เช่ามูลค่า 1,620 ล้านเปโซ และบันทึกรับรู้กำไรจากการขายอาคารสำนักงานให้เช่าดังกล่าวเป็นจำนวน 669 ล้านเปโซ (จำนวน 457 ล้านบาท)

ค. ธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ท

กลุ่มบริษัทดำเนินธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทมุ่งเน้นในต่างจังหวัดที่มีศักภาพ ปัจจุบัน บริษัทฯ มีโรงแรมและ รีสอร์ทที่อยู่ภายใต้การบริหารของกลุ่มบริษัท 2 แห่งได้แก่ “ศุภาลัย ป่าสัก รีสอร์ทแอนด์ สปา” ตั้งอยู่ที่จังหวัดสระบุรีซึ่งใกล้แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ และไม่ไกลจากกรุงเทพมหานคร มีห้องพักจำนวน 138 ห้องในบรรยากาศแวดล้อมด้วยแมกไม้ สายน้ำ และขุนเขา พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก และ “ศุภาลัย รีสอร์ท แอนด์ สปาภูเก็ต” ตั้งอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต เป็นโรงแรมระดับ 4 ดาว มีห้องพักจำนวน 182 ห้อง ทั้งแบบห้อง Deluxe และแบบ Pool side Villa มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเป็นชาวต่างประเทศเป็นหลัก

ผู้นำด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์อย่างยั่งยืน

โดยมีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม และสิ่งแวดล้อม

ภารกิจ

สร้างสรรค์และพัฒนานวัตกรรมสินค้าและบริการอย่างต่อเนื่อง

เพื่อผลประกอบการที่ดี โดยคำนึงถึงประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสีย
สังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล

ปรัชญาการบริหาร

เพื่อสังคมคุณภาพของ “ชาวศุภาลัย” บริษัทฯ จึงตั้งมั่นในการสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพ
พัฒนาผลิตภัณฑ์ตลอดเวลา พัฒนาสังคมให้มีความปลอดภัย อบอุ่น พัฒนาการบริการที่ดี
ด้วยความเป็นมืออาชีพ เพื่อสร้างความพึงพอใจสูงสุดของลูกค้า โดยยึดมั่นในปรัชญาการบริหารงาน

โครงการทั้งหมด

โครงการทั้งหมดของเรา บริษัท หาดใหญ่นครินทร์ จำกัด (ในเครือศุภาลัย)

  • เราใช้คุกกี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ คุณต้องยอมรับคุกกี้
    เพื่อใช้งานเว็บไซต์ คุณสามารถตรวจสอบ นโยบายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  • นโยบายว่าด้วยการ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล